Last updated: 13 Aug 2022 |
เครื่องประดับที่ใช้ในปัจจุบันมีการผลิตจากวัสดุ หรือโลหะที่หลากหลาย มีคุณสมบัติแตกต่างกันทั้งในด้านมูลค่า ความคงทนต่อสารเคมี ความสวยงาม ความปลอดภัยต่อผู้สวมใส่ การผลิตเครื่องประดับในปัจจุบันได้แบ่งกลุ่มโลหะได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ กลุ่มโลหะมีค่า และกลุ่มโลหะที่ใช้ผลิตเครื่องประดับแฟชั่น
โลหะมีค่า หรือโลหะที่มีมูลค่าสูง ที่ใช้ในการทำเครื่องประดับได้แก่
- ทองคำ (Gold) มีราคาสูง เนื่องจากหายากและมีปริมาณจำกัด ซึ่งทองคำคุณสมบัติพิเศษ คือมีสีทองแวววาว ไม่สึกกร่อน และไม่หมอง อย่างไรก็ตามทองคำบริสุทธิ์จัดเป็นโลหะที่มีความแข็งแรงต่ำ เมื่อนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับจะต้องนำไปหลอมรวมกับโลหะมีค่าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเครื่องประดับ ซึ่งทำให้ทองคำที่นำไปผสมกับโลหะมีสีแตกต่างกัน โดยสีของทองคำที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ สีเหลือง (Yellow Gold) สีขาว (White Gold) และสีชมพู (Pink Gold)
- เงิน (Silver) เป็นโลหะที่นิยมใช้ในวงการเครื่องประดับและอัญมณี มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับทองคำ มีสีขาวเงิน พื้นผิวมีความมันเงา และสามารถนำไปขัดให้เงาได้ โดยมข้อระวังของโลหะเงิน คือเมื่อสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานานจะมีสีคล้ำลง แต่สามารถเช็ดด้วยผ้าเช็ดเครื่องเงินได้ ทำให้โลหะเงินกลับมามีสีขาวเงินสวยงามเหมือนเดิม
- แพลทินัม (Platinum) หรือทองคำขาว เป็นหนึ่งในกลุ่มธาตุโลหะแพลทินัมที่มีโรเดียม (Rhodium, Rh) และแพนลาเดียม (Palladium, Pd) ที่มักใช้ในการชุบตัวเรือนเครื่องประดับ แพททินัมมีราคาสูงมาก เพราะแพลทินัมเป็นโลหะที่หายากมากที่สุดชนิดหนึ่งบนโลก รวมทั้งมีปริมาณไม่มากแพลทินัมเป็นโลหะ ที่เริ่มนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้ไม่นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิยมกันมากในปสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
- ไททาเทียม (Titanium) เป็นโลหะสีเทาเงินและไม่เป็นพิษต่อผิวหนัง ซึ่งโลหะทนต่อการกัดกร่อน แข็งแรง มันวาว มีน้ำหนักเบาและมีจุดหลอมเหลวสูง จึงนิยมนำไททาเทียมมาใช้ในการผลิตอุปกรณ์การบินและกระสวยอวกาศ รวมถึงนิยมนำไททาเนียมมาผลิตเครื่องประดับมากขึ้น ทั้ง Pure Titanium หรือ Ti-6Al-4V เช่น แหวนไททาเนียม สายนาฬิกาข้อมือ รวมถึงมีการนำไทเทเนียมมาใช้ในทางการแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์
โลหะที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับแฟชั่น ......ตอนที่2......