Last updated: 26 Aug 2022 |
ตอนที่ 2
โลหะที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับแฟชั่น
- ทองแดง (Copper) เป็นโลหะที่มีสีสวยงาม นิยมนำมาทำเครื่องประดับตั้งแต่สมัยโบราณ มีราคาไม่แพง จึงมักนิยมนำมาทำเครื่องประดับแฟชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนำโลหะทองแดงมาผสมกับสังกะสีจะได้ทองเหลือง ที่มีสีสวยงามเหมือนทองคำ จึงนิยมไปทำเครื่องประดับเทียม แต่ทองแดงสามารถเกิดปฎิกิริยาเคมีกับออกซิเจน ในน้ำและอากาศจะเกิดเป็นคราบสีเขียว สีดำ หรือ สีชมพูได้ จึงไม่นิยมใช้ทองแดงมาทำเครื่องประดับ หรือนำมาใช้เป็นโลหะหลักในการทำเครื่องประดับโดยตรง
- สังกะสี (Zinc) เป็นโลหะที่มนุษย์ใช้ประโยชน์กันมาเป็นเวลานาน มักใช้ผสมกับโลหะชนิดอื่น เช่นผสมกับทองแดง สำหรับผลิตทองเหลือง หรือใช้ชุบโลหะอื่นเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
- ดีบุก (Tin) เป็นโลหะที่สำคัญมีสีขาวคล้ายโลหะเงิน มีคุณสมบัติ ต้านทานการสึกกร่อน ทนต่อสารเคมีและดัดโค้งงอได้ตามต้องการ ตามคุณสมบัติดังกล่าว จึงนำดีบุกมาผลิต โดยการหล่อขึ้นรูปและนำไปขัดแต่ง ดุนลาย จนเกิดเป็นลวดลายและรูปทรงหลากหลายต่าง ๆ ที่เห็นในปัจจุบัน ถือเป็นงานฝีมือเฉพาะที่มีเอกลักษณ์ของไทย
- นิกเกิล (Nickel) เป็นโลหะที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อน ป้องกันการเกิดสนิม และช่วยลดเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่าออกซิเดชั่น อีกทั้ง ในการผลิตเครื่องประดับที่มีการนำนิกเกิลมาผสมจะช่วยให้โลหะนั้นมีความแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีการนำนิกเกิลมาชุบพื้นผิวเครื่องประดับเพื่อให้เกิดความมันเงาและเพิ่มสวยงาม อย่างไรก็ตาม นิกเกิล เป็นแร่ธาตุที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ในการทำเครื่องประดับและอัญมณีที่มีมูลค่าจะหลีกเลี่ยงการใช้นิกเกิลเป็นส่วนประกอบในการผลิตเครื่องประดับ
- สแตนเลส สตีล (Stainless Steel) หรือเหล็กกล้าไร้สนิม คือโลหะผสมที่มีส่วนประกอบหลักคือแร่เหล็กและแร่โครเมียม มีคุณสมบัติพิเศษคือไม่เกิดสนิม ทนความชื้น ทนต่อการกัดกร่อนและง่ายต่อการขึ้นรูปทรง จึงทำให้แสตนเลสเป็นที่นิยมในการนำมาทำเครื่องประดับเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Stainless Steel 316L ซึ่งใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์